สิวเกิดจากอะไร? เจาะลึกสาเหตุสิวพร้อมแนวทางการดูแลรักษา

หลายคนประสบปัญหากับผิวที่ไม่เรียบเนียนจากการเป็นสิว โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ซึ่งจริง ๆ แล้วสิวไม่ได้เกิดแค่ในเฉพาะวัยรุ่น แต่พบได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ และเมื่อเป็นสิวแล้วก็มักจะทำให้สูญเสียความมั่นใจ มากไปกว่านั้นหลังสิวหายแล้ว ก็มักจะทิ้งรอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็น หรือรอยหลุมสิวไว้ หรือบางครั้งสิวเจ้าปัญหานี้กลับไม่หายไปง่าย ๆ กลายเป็นสิวเห่อ สิวผื่น หรือกลายเป็นสิวอักเสบกลายเป็นสิวหัวช้าง มีการบวม รวมถึงอาการเจ็บ ปวด บวม แดง แถมมาด้วย The One Clinic เลยชวนทุกคนมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดสิว รวมทั้งสิวที่เกิดขึ้นตำแหน่งต่างๆ มีสาเหตุแตกต่างกันอย่างไร เพื่อรู้วิธีรับมือ เนื่องจากการที่เรามีความเข้าใจที่ถูกต้อง จะรับมือกับสิวได้โดยไม่ทำร้ายผิว และจะไม่ส่งผลให้ให้ปัญหาสิวและสภาพผิวหน้าแย่ลง นำไปสู่การรักษาและฟื้นฟูผิวได้อย่างยั่งยืน

สาเหตุการเกิดสิว

สิว เป็นภาวะผิดปกติของผิวหนังที่เกิดรูขุมขนอุดตันจากไขมันและซากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว มีสาเหตุมาจากการมีสิ่งอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิวอุดตันที่มีขนาดเล็กที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น (microcomedone) โดยปกติในผิวที่มีสุขภาพดี microcomedone จะสลายไปได้เองแต่ในสภาวะผิดปกติ กลไกการสลายตัวของ microcomedone กลับทำให้เนื้อเยื่อข้างเคียงเกิดการอักเสบระดับต่ำ ๆ นำไปสู่การแบ่งตัวเพิ่มจำนวนและผลัดทิ้งที่มากเกินไปของเซลล์ผิวหนังในรูขุมขนโดยเฉพาะในบริเวณรอบ ๆ รูเปิดของขุมขน ทำให้เกิดการอุดตันที่มากยิ่งขึ้น เมื่อเสริมเข้ากับการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันในรูขุมขนที่มากขึ้น นำไปสู่สิวอุดตันที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนมองเห็นได้ (comedone) 

สิวอุดตันหรือ comedone นี้เป็นแหล่งอาหารให้กับเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes (C. acnes) เมื่อเกิดการติดเชื้อ ก็จะไปกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว และยิ่งทำให้การอักเสบรุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังโดยรอบเกิดเป็นสิวอักเสบ เห็นเป็นสีแดง โดยในช่วงแรกอาจเป็นตุ่มนูนแดงขนาดเล็ก (papule) หากปล่อยไว้อาจกำเริบกลายเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่และมีหนอง (nodule pustule or cyst) สิวอักเสบติดเชื้อขนาดใหญ่เหล่านี้ ทำให้เกิดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อผิวหนังกินพื้นที่ทั้งในแนวกว้างแผ่ออก และลึกลง จนนำไปสู่การเกิดแผลเป็นและหลุมสิว

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว

สิวในช่วงวัยรุ่นมักมีสาเหตุร่วมกันหลาย ๆ สาเหตุดังนี้

  1. มีการหลั่งของไขมันจากต่อมไขมันมากกว่าปกติ จากการที่มีฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงวัยรุ่น
  2. ต่อมไขมันอุดตัน จากการที่มีการหลั่งไขมันมากเกินไป จนมีการอักเสบของท่อต่อมไขมัน 
  3. เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย C. acnes ภายในท่อไขมันที่มากกว่าปกติ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของท่อต่อมไขมันและเกิดสิวอักเสบขึ้น
  4. เกิดการอักเสบของต่อมไขมันร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย C. acnes จนทำให้เกิดเป็นตุ่มหนอง

สาเหตุอื่น ๆ นอกเหนือจากสาเหตุดังกล่าวข้างต้น

  • แพ้เครื่องสำอาง เช่น โฟมล้างหน้าหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ
  • มีการรบกวนผิว เช่น มีการขัดถูแรง ๆ หรือมีการขัดหรือนวดหน้า
  • ความเครียด นอนดึก หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนตามรอบเดือนของผู้หญิง
  • มีการรับประทานยา หรือทายากลุ่มสเตียรอยด์ 

ปัญหาสิวที่หลายคนมักเป็น คือ สิวบริเวณใบหน้า จมูก แก้ม คาง หน้าผาก หน้าอก ไหล่ และแผ่นหลัง ถ้าการเป็นสิวของคุณ เป็นนาน ๆ ครั้ง ไม่บ่อยอาจเป็นเรื่องปกติ และยังไม่ถึงขั้นที่ต้องวิตกกังวล แต่ถ้าคุณเป็นสิวเห่อที่บริเวณเดิม ๆ บ่อย ๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกถึงสาเหตุบางอย่างที่ซ่อนอยู่

สิวมีกี่ประเภท เราเป็นสิวประเภทไหนกัน?

สิวมีกี่ประเภท

ประเภทของสิวตามลักษณะที่พบได้แก่

  1. สิวอักเสบ คือ สิวที่มีการอุดตันของรูขุมขนและมีแบคทีเรียเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบ และมักจะเกิดตามหลังสิวหัวปิดที่ไม่ได้รับการรักษา เช่น สิวอักเสบ สิวตุ่มหนอง สิวหัวช้าง
  2. สิวไม่อักเสบ คือ สิวมักเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ร่วมกับการผลิตไขมันที่มากเกินไป เช่น สิวอุดตันหัวขาว สิวอุดตันหัวดำ
  3. สิวอุดตัน คือ สิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนบนผิวหนัง บางครั้งสิ่งอุดตันที่เราเรียกกันว่าหัวสิว ก็โผล่ออกมาให้เห็นได้จากภายนอก บางคนอาจแยกประเภทให้สิวชนิดนี้เป็นสิวแบบไม่อักเสบ แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ 
    • สิวหัวดำ เป็นสิวอุดตันที่รูขุมขนเปิด ทำให้หัวสิวที่อยู่ภายในสัมผัสกับอากาศภายนอก ทำให้ออกซิเจนในอากาศสามารถเกิดปฏิกริยากับส่วนประกอบของหัวสิวซึ่งเป็นไขมันและซากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ทำให้หัวสิวกลายเป็นสีดำคล้ำ
    • สิวหัวขาว เป็นสิวอุดตันที่รูขุมขนปิด หัวสิวจึงไม่ถูกทำปฏิกริยากับอากาศภายนอกและยังคงสีขาวตามเดิม
  4. สิวเสี้ยน คือ สิวมีสาเหตุความผิดปกติของรูขุมขน ลักษณะของสิวจะคล้าย ๆ สิวอุดตันหัวดำ แตกต่างกันที่สิวเสี้ยนจะมีกระจุกขนเล็ก ๆ แทรกอยู่ในหัวสิว จึงทำให้มองเห็นเป็นจุดดำเล็ก ๆ หรืออาจมีหนามแหลมยื่นออกมาทางรูขุมขนได้ด้วย

สิวที่หน้าผากและจมูกเกิดจากอะไร?

ถ้าเราลากเส้นผ่านหน้าผาก และลากอีกเส้นผ่านสันจมูกลงมา เราจะได้บริเวณที่มีรูปร่างเป็นตัวทีใหญ่ (T-zone) ซึ่งใบหน้าในบริเวณนี้จะมีลักษณะจำเพาะ คือ มีรูขุมขนขนาดใหญ่ และมีความมันมากกว่าบริเวณอื่นของใบหน้า ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดสิวบริเวณนี้คือ
  • ความมัน: ดังที่กล่าวไปแล้วว่าบริเวณนี้มีรูขุมขนใหญ่และมีความมันมากกว่าบริเวณอื่น ทำให้เกิดสิวอุดตัน (comedone) ได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น 
  • ความผิดปกติของรูขุมขน: ทำให้เกิดเป็นสิวเสี้ยน (trichostasis spinulosa) เช่น สิวเสี้ยนที่จมูกที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นขนที่ค้างอยู่ในรูขมขนเป็นจำนวนมาก จนทำให้เห็นเป็นจุดสีดำ และมีลักษณะคล้ายสิวหัวดำ

สิวที่คางเกิดจากอะไร?

  • ฮอร์โมนเพศ: สิวที่บริเวณคางหรือกรามล่าง มักมีความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศ โดยวัยรุ่นเพศชายมักเป็นสิวขึ้นตามแนวกรามในช่วงที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในขณะที่เพศหญิงในทุกช่วงอายุมักมีสิวขึ้นที่คางในช่วงประจำเดือน สิวที่ขึ้นในบริเวณนี้มักอยู่ลึก มีขนาดใหญ่ และอักเสบได้มากกว่าในบริเวณอื่นของใบหน้า ทำให้เสี่ยงที่จะกลายเป็นรอยดำและหลุมสิวได้มากกว่าบริเวณอื่น
  • หน้ากากอนามัย: การระบาดของโรคโควิดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีการใช้หน้ากากอนามัยเป็นระยะเวลานาน ๆ จึงเกิดความอับชื้นใต้หน้ากากซึ่งทำให้แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวเจริญเติบโตได้ดี หรือพฤติกรรมการใช้หน้ากากซ้ำหลายวัน ทำให้สิ่งสกปรกสะสม และสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง ล้วนเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดสิวได้มากขึ้น

สิวที่แก้มเกิดจากอะไร?

  • เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า: สิวที่แก้มอาจสัมพันธ์กับการใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าบางชนิดซึ่งจะทำให้เกิดสิวขนาดเล็ก ๆ ขึ้นพร้อมกันหลายเม็ด ที่บริเวณแก้ม โดยอาจจะเกิดที่คางและหน้าผากด้วยก็ได้
  • การสัมผัสสิ่งสกปรก: มีการสัมผัสสิ่งสกปรกที่อาจมาจากโทรศัพท์มือถือ ผ้าเช็ดตัว ปลอกหมอน และอุปกรณ์แต่งหน้า เช่น แปรงแต่งหน้า พัฟแป้งฝุ่น หรือฟองน้ำลงรองพื้น ล้วนเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย เและพฤติกรรมที่ชอบเอามือที่ไม่สะอาดมาจับหน้าบ่อย ๆ ก็เป็นสาเหตุการเกิดสิวได้เช่นกัน
  • หน้ากากอนามัย: เช่นเดียวกันกับสิวที่คาง หน้ากากอนามัยก็สามารถทำให้เกิดสิวที่แก้มได้เช่นกัน

สิวที่ไรผมและหนังศีรษะเกิดจากอะไร?

  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผม: ถ้าคุณมักเป็นสิวแค่ที่บริเวณไรผม หรือที่หนังศีรษะ สาเหตุของสิวอาจเกิดจากผลิตภัณฑ์ดูแลผม เช่น มูสจัดแต่งทรงผม หรือดรายแชมพู เป็นต้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง ล้างออกยาก และอาจเกิดการสะสมตัวจนทำให้เกิดสิวได้

ถ้าหากคุณสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่ใช้อยู่จะเป็นสาเหตุการเกิดสิว ทางออกคือให้เปลี่ยนไปเน้นการใช้ที่บริเวณปลายผม และหลีกเลี่ยงการลงผลิตภัณฑ์บนหนังศีรษะ หรืออาจเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่น

สิวที่หลังเกิดจากอะไร?

สิวที่หลังมักเกิดจากความอับชื้นใต้เสื้อผ้าจากความร้อนและการออกกำลังกาย รวมถึงการหมักหมมของเหงื่อไคล ดังนั้นแล้ว เพื่อการป้องกันการเกิดสิวที่แผ่นหลัง จึงควรใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนและระบายเหงื่อได้ดี นอกจากนี้ หลังการออกกำลังกาย เราควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่แห้งสะอาด

สิวที่หลังนั้นจะรักษาค่อนข้างยาก เพราะเป็นจุดที่เรามักทายาไม่ถึง และส่วนใหญ่จะมีการสะสมของแบคทีเรียมากกว่าบริเวณใบหน้า การรักษาสิวที่หลังจึงค่อนข้างใช้เวลา แต่มักจะเริ่มเห็นความแตกต่างตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และมีโอกาสหายขาดได้

ทำอย่างไรไม่ให้เป็นสิว?

เนื่องจากสิวเกิดได้จากหลายปัจจัย การป้องกันไม่ให้เกิดสิวจึงมีหลากหลายวิธี ดังนี้
  1. รักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ การพักผ่อนที่เพียงพอ ทำจิตใจไม่ให้เกิดความเครียด เนื่องจากความเครียดจะไปกระตุ้นให้ต่อมใต้สมองหลั่ง สารชนิดหนึ่งออกไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
  2. ล้างหน้าให้สะอาด ลดการอุดตันของรูขุมขน ลูบไล้บริเวณหน้าเบา ๆ อย่าถูแรง เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองเป็นการกระตุ้นสิวให้กำเริบ และไม่ควรใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่มีฤกธิ์แรงเกินไป เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์บนใบหน้าทำให้สิวเกิดการอักเสบลุกลามมากขึ้น รวมไปถึงไม่เอามือไปสัมผัสผิวหน้าหากยังไม่ได้ล้างมือให้สะอาด
  3. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของพาราฟิน หรือกรดไขมัน ซึ่งพบได้ในผลิตภัณฑ์ประเภทครีมรองพื้น ครีมก่อนนอน ครีมบำรุงผิว หากจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอาง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทที่ไม่ทำให้เกิดสิว  (noncomidogenic)
  4. หลีกเลี่ยงการแกะสิว เพราะการแกะสิวไม่ได้ทำให้สิวหายเร็วขึ้น แต่จะทำให้เกิดอันตรายบริเวณผิวหนังและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ทำให้สิวอักเสบมากขึ้น

แนวทางการรักษาสิว

การรักษาสิวให้ได้ผลดีต้องเริ่มจากการหาสาเหตุก่อน ซึ่งการรักษาก็แตกต่างกันออกไป อาจเริ่มต้นจากใช้ยาทาเฉพาะที่ ยารับประทานยาปฏิชีวนะ ยากลุ่มกรดวิตามินเอ หรือฮอร์โมนบางชนิด

ใช้วิธีการรักษาสิวโดยการใช้แสงประเภทต่าง ๆ เช่น Intense Pulse Light (IPL) ที่ใช้แสงที่มีคลื่นความถี่จำเพาะในการฆ่าเชื้อสิวโดยตรง ซึ่งช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ลดการอักเสบ ลดรอยดำรอยแดงจากสิว  blue light therapy เป็นการรักษาโดยใช้แสงสีน้ำเงิน ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของสิวได้

อาจใช้วิธีการกดสิว เป็นวิธีที่ใช้มานาน แต่ควรทำโดยผู้ที่มีความชำนาญเพื่อขจัดสิวอุดตัน เพราะวิธีนี้เสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำหรือแผลเป็นได้

ร่องรอยจากการเป็นสิว อีกปัญหาใหญ่ที่ต้องรักษา

รักษาสิวด้วย Fractional RF

ปัญหาที่เกิดหลังการเป็นสิว เช่น รอยแผลเป็น แผลเป็นหลุมเป็นบ่อ ใบหน้าขรุขระ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น อาจทำการรักษาได้โดยการแต้มยาบางชนิด เช่น กรดไตรคลอโรอะเซติก (TCA CROSS) เพื่อกระตุ้นเนื้อเยื่อไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้สร้างคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น 

นอกจากนี้ เราสามารถใช้เลเซอร์เพื่อรักษาจุดด่างดำ รอยแดง หรือหลุมสิว ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ดันเซลล์เม็ดสีให้หลุดออก จึงทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทำเกิดการสร้างผิวใหม่ที่สมบูรณ์และรอยหลุมสิวมีขนาดเล็กลง อีกทั้งการรักษาด้วยคลื่นความถี่สูง (Fractional RF) สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ โดยจะได้ผลดีมากในหลุมสิวขนาดใหญ่ที่ TCA CROSS ไม่อาจจะรักษาได้

เนื่องจากสิวมีหลายประเภทและหลายสาเหตุ ดังนั้นก่อนตัดสินใจรักษาสิวด้วยวิธีใดก็ตามควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญหรือแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวิเคราะห์ปัญหาของสิวว่าเป็นสิวประเภทไหน เกิดจากสาเหตุอะไร เพื่อการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม และประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี ลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว และที่สำคัญเมื่อรักษาสิวอย่างถูกต้องก็จะไม่ทำให้เกิดสิวใหม่ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาสิวที่ไม่รู้จบ

สรุป

สิวเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน สาเหตุของสิวเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน เป็นความผิดปกติที่ไม่รุนแรงแต่เรื้อรัง ส่งผลต่อจิตใจเพราะเกี่ยวข้องกับความสวยความงาม สร้างความกังวลและสร้างความไม่มั่นใจ ทั้งนี้การรักษาสิวอาจต้องใช้ระยะเวลา เมื่อสิวหายก็ยังทิ้งร่องรอยของแผลเป็น จุดด่างดำต่าง ๆ ซึ่งการรักษาให้หายนั้นยากและใช้ต้องเวลามากขึ้น ดังนั้นเราควรทำความเข้าใจถึงต้นเหตุของการเกิดสิว เพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่ และที่สำคัญห้ามแกะ หรือบีบสิวเองเด็ดขาดเพราะจะทำให้เกิดแผลเป็น หลุมสิวตามมาได้ การดูแลและรักษาสิวอย่างถูกวิธี สิวก็จะกลายเป็นเรื่องสิว ๆ ที่แก้ได้ไม่ยากอีกต่อไป

บทความที่คล้ายกัน

สิวที่ปาก

สิวที่ปาก ขึ้นรอบปาก มุมปาก รู้ลึกถึงสาเหตุและวิธีรักษาให้ได้ผล

สิวที่ปากและมุมปากเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รู้จักวิธีรักษาที่ได้ผลและปลอดภัย พร้อมเคล็ดลับการดูแลผิวให้ห่างไกลจากสิวบริเวณรอบปากไม่ให้เกิดซ้ำ

ผมบาง

ผมบางก็กลับมาหนาได้! รู้สาเหตุ วิธีป้องกันและรักษาให้ตรงจุด บอกลาปัญหาผมขาดร่วง

บอกลาปัญหาผมบาง! เพียงรู้สาเหตุของผมบางและผมร่วง พร้อมวิธีป้องกันและวิธีรักษาอย่างตรงจุด เพื่อฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาหนา แข็งแรง หมดปัญหาผมขาดหลุดร่วง

สิวที่คอ

สิวที่คอเป็นซ้ำ ๆ ซาก ๆ เกิดจากอะไร? ควรดูแลและรักษาอย่างไรให้หาย

สิวที่คอเกิดจากอะไร? รู้สาเหตุที่ทำให้สิวที่คอเป็นซ้ำ ๆ พร้อมคำแนะนำวิธีการดูแลและรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผิวกลับมาเนียนใสไร้สิวไม่เกิดซ้ำ