รวม 18 วิธีรักษาสิวให้หายขาด ผิวกลับมาเรียบเนียน สุขภาพดี

สิวเป็นปัญหาผิวพรรณที่สร้างความกังวลใจให้กับหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวผด หรือสิวหัวดำ สิวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 18 วิธีรักษาสิวที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาแบบธรรมชาติ การใช้ยา หรือวิธีทางการแพทย์ เพื่อให้ผิวหน้าของคุณกลับมาเรียบเนียน สดใส สุขภาพดีอีกครั้ง

สิว เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

สิวเป็นโรคผิวหนังอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อยในทุกเพศ ทุกวัย เนื่องจากมีต้นตอจากหลายสาเหตุ แต่ก็สามารถป้องกันได้หากดูแลตัวเองดีและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสิว The One Clinic จะพาไปทำความรู้จักสาเหตุของการเกิดสิวกันค่ะ 

สิวเกิดจากอะไร

1. การอุดตันของรูขุมขน

การอุดตันของรูขุมขนเกิดขึ้นได้ทั้งจากน้ำมันมากเกินไป สิ่งสกปรก กระจุกไรขน และความอับชื้น ซึ่งถ้าเกิดการอุดตันรูขุมขนบริเวณที่ใกล้กับชั้นบนสุดของผิวหนัง Epidermis ก็จะทำให้เกิดสิวหัวขาว แต่ถ้าโดนอากาศสิวหัวขาวก็จะออกซิไดซ์เป็นสิวหัวดำแทน

2. การสะสมของต่อมไขมัน

ในผิวหนังของเรามี 3 ชั้น ชั้นกลาง หรือ Dermis จะมีต่อม Sebaceous อยู่ซึ่งมี ขน และ รูขุมขน หน้าที่ของ Sebaceous gland คือการรักษาสุมดลบนใบหน้าของเราโดยการขับน้ำมันออกมา แต่ว่า การที่มีน้ำมันบนใบหน้ามากเกินไป รวมกับปัจจัยอื่น เช่น Keratinized cells การที่ผิวชั้นบนตายแล้วหลุดออกมา เมื่อสองอย่างนี้รวมกันก็จะทำให้เกิดการอุดตัน

3. P. Acne bacteria

เมื่อมีการอุดตันของรูขุมขนและน้ำมันที่สะสมเป็นสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) แบคทีเรียนี้จะย่อยสลายไขมันในรูขุมขนและปล่อยสารเคมีที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในผิวหนัง (Inflammation) ส่งผลให้เกิดสิวหนองหรือสิวอักเสบ

4. Hormones

ฮอร์โมน Testosterone ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศ เป็นฮอร์โมนวัยพลุ่งพล่านของช่วงวัยรุ่นที่ส่งผลกับการผลิตน้ำมันของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง หากมีการผลิตน้ำมันมากผิดปกติก็จะทำให้เกิดการอุดตันและเกิดสิว
สำหรับวัยผู้ใหญ่ สิวจะเกิดกับผู้หญิงง่ายกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนบ่อยกว่า เช่น ในช่วงที่มีประจำเดือน การตั้งครรภ์ และ โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) ซึ่งทำให้เกิดการกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ

REF – NHS

รักษาสิวตามประเภทของสิว

การรักษาสิวให้เห็นผลและหายขาด ควรรู้จักประเภทของสิวและการรักษาที่เหมาะสม เนื่องจากสิวแต่ละประเภทไม่ได้มีสาเหตุเดียวกัน การรักษาจึงต้องมีความหลากหลาย

รักษาสิวอักเสบ 

สิวอักเสบ

  • การลดสิวอักเสบสามารถทำได้โดยการใช้เจลล้างหน้าที่มีความชุ่มชื้น เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ไม่มีสารเคมีเข้มข้นเกินไป นอกจากนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเช่น benzoyl peroxide เพื่อละลายหัวสิว ลดการอุดตันและลดการติดเชื้อของสิว
  • การใช้ Retinoids (จาก Vitamin A) เช่น Adapalene หรือ Differin gel ทาบริเวณที่เป็นสิวก็สามารถช่วยลดความมันและการผลิตเคราตินที่มากเกินความจำเป็น
  • หากรักษาสิวด้วยตัวเองแล้วมีอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อคำปรึกษาและรับการรักษาที่เหมาะสม รวมถึงการตรวจเชื้อสิวเพื่อหาต้นตอในการรักษา
  • การฉีดสิวด้วยยาประเภทสเตียรอยด์อ่อน ๆ เพื่อเข้าไปทุเลาการอักเสบและทำให้อาการบวมลดลงได้ภายใน 2-3 วัน
  • นวัตกรรมคลื่นวิทยุ Acgen (แอกเจน) เป็นเครื่องมือใหม่ล่าสุดจากเกาหลีใต้ ที่รักษาสิวถึงต้นตอด้วยการปล่อยคลื่นวิทยุประเภท Monopolar RF ที่ช่วยรักษาสิวอักเสบที่เป็นเรื้อรังหรือสิวที่เกิดขึ้นบริเวณเดิมซ้ำ ๆ โดยไม่ต้องใช้ยา และไม่มีผลข้างเคียง
  • ยารับประทานและยาทาภายนอก 
  • ยารับประทานในการรักษาสิวหัวช้างคือยา Isotretinoin โดยจำเป็นต้องทานต่อเนื่อง 4-5 เดือนและยังสามารถทานคู่กับยาปฏิชีวนะอื่นๆ ตามการประเมินของแพทย์และเภสัชกร
  • ยาทาประเภท Retinoids และ Benzoyl peroxide เพื่อลดอาการอุดตันของรูขุมขน
  • หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสสิว ไม่ควรทำให้สิวแตกหรือกดสิวด้วยมือ เพราะมันอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายจนติดเชื้อ
  • รักษาสุขภาพผิวหนังให้แข็งแรง ดื่มน้ำเพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจกระตุ้นการเกิดสิว เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

รักษาสิวไม่อักเสบ

สิวอุดตัน 

  • การรักษา Comedones สามารถใช้ Retinoids เช่น Adapalene ร่วมกับการใช้ Benzoyl peroxide ได้ โดย Benzoyl peroxide ทำงานโดยการละลายหัวสิวและฆ่าเชื้อสิว ส่วน Retinoids จะเน้นเป็นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ เพื่อลดการอุดตันรูขุมขน

สิวผด 

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางสูตร Non-comedogenic เพื่อลดการอุดตัน ควรเลี่ยงการสครับผิว และ ใช้ Moisturiser อย่างสม่ำเสมอ
  • สิวผดสามารถหายเองได้ แต่หากใช้เวลามากกว่า 2-3 สัปดาห์ก็ควรไปพบแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อหาสาเหตุการเกิดสิวผดที่ชัดเจน เช่น การตรวจเชื้อสิว การใช้ยาประเภท Steroid 
  • สิวผดรักษาด้วยการทำเลเซอร์ Intense pulse light (IPL) โดยแสงจะส่งผลให้ต่อมไขมันทำงานลดลง เน้นกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ กระตุ้น collagen ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นจากชั้นผิวภายใน

หมอหนึ่งมัดรวม 18 วิธีรักษาสิวให้หายขาด ลดโอกาสเกิดซ้ำ

การรักษาสิวจำเป็นต้องใช้เวลา ความชำนาญ และความสม่ำเสมอ ซึ่งคุณเองก็สามารถรักษาสิวด้วยตัวเองได้ในกรณีที่สิวไม่รุนแรง แต่หากสิวลุกลามและรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี

9 วิธีรักษาสิวอย่างเห็นผล ที่ The One Clinic

1.การตรวจหาเชื้อสิว 

การรักษาสิวให้เห็นผล แพทย์จำเป็นต้องทราบถึงต้นตอของสิวเพื่อนำมาวิเคราะห์และออกแบบการรักษาที่เหมาะสมและตรงจุด การตรวจหาเชื้อสิวจึงเป็นโปรแกรมแรกที่หมอหนึ่งอยากแนะนำ คุณจะได้รู้ว่าสิวที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุจากอะไร อาทิ ความมัน แบคทีเรีย เชื้อรา หรือ เชื้อยีสต์ เป็นต้น คุณจะได้รักษาหายและลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ

ตรวจเชื้อสิว

2.รักษาสิวด้วย Laser Acgen 

นวัตกรรมที่ได้รับการรับรองจาก USFDA ที่สามารถรักษาสิวได้หลายชนิด อาทิ สิวหัวข้าง สิวหัวดำ สิวหัวขาว สิวไร้หัว สิวอักเสบรุนแรง สิวฮอร์โมน เพราะว่าหลักการทำงานของเครื่องนี้คือ Based on radio frequency target บริเวณต่อมไขมัน ฆ่าเชื้อ P. acne ที่มีการอักเสบโดยตรง โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะลึกเกินไป เพราะว่าเครื่องนี้มีระบบ sensor วัดแรงต้านและส่งความถี่ของคลื่นได้อย่างสม่ำเสมอ หัวเครื่องจะมี 2 ลักษณะ 1) หัวเข็ม สำหรับการรักษาสิวอักเสบ 2) หัว Monopolar เน้นการยิงเพื่อลดการทำงานของต่อมไขมันในบริเวณที่เกิดสิวซ้ำซาก โดยไม่ทิ้งรอย ไม่มีสะเก็ด สิวจะลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด และแก้ปัญหาของเกิดสิวที่ต้นตอคือการฆ่าเชื้อสิว ลดการทำงานของต่อมไขมันบริเวณที่เป็นสิวโดยตรง ลดการอักเสบเห็นผลได้ภายใน 5-7 วัน

3.Intense Pulse Light (IPL)

โปรแกรม Acne Clear Laser เป็นการรักษาที่รวมการปรึกษาแพทย์ การกดสิว ฉีดสิว ไม่จำกัด พร้อมมาส์กหน้าฉายแสง และมีการใช้ Intense Pulse Light หรือ IPL ฆ่าเชื้อสิว ลดความมันของผิว ลดรอยดำ และรอยแดง เป็นโปรแกรมที่มีความคุ้มค่าเพราะรวมการรักษาสิวและรอยด้วยกันในครั้งเดียว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิวระดับกลางถึงรุนแรงแต่อยากทดลองรักษารอยสิวพร้อมกับการรักษาสิวในเวลาเดียวกัน สามารถเห็นผลลัพธ์การรักษาภายใน 14 วันหลังจากการรักษา

โปรแกรมรักษาสิว

4.เลเซอร์ลดรอยแดง

รอยแดงจากสิวเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยหลังจากการอักเสบของสิวหายไปแล้ว โดยเฉพาะสิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่หรือเป็นเวลานาน ซึ่งรอยแดงเหล่านี้เกิดจากการที่หลอดเลือดขยายตัวในบริเวณที่เคยมีสิว ทำให้ผิวดูแดงและอาจมีอาการบวมร่วมด้วยได้ The One Clinic สามารถรักษารอยแดงด้วยการใช้ Lutronic Spectra Gold เป็นเลเซอร์ Nd:YAG ทำงานโดยการปล่อยพลังงานแสงที่ความยาว 585 nM ที่ดูดซับ ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ที่เป็นสาเหตุของรอยแดงในผิวหนัง ทำให้รอยแดงจางลง  สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว มีผลลัพธ์จะมองเห็นได้ดีขึ้น 40-50% หลังการรักษาเพียงครั้งเดียว

5.เลเซอร์ลดรอยดำ

รอยดำจากสิวมักเกิดจากการ แกะ บีบสิว จนทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการอักเสบ จนกลายเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มหรือดำบนใบหน้า แต่ปัญหานี้รักษาได้โดยหมอหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น สิว สิวอักเสบ ฝ้า กระ จุดด่างดำ สำหรับโปรแกรมเลเซอร์รักษาสิว รอยดำ รอยแดงจากสิว ได้ผลลัพธ์ชัดเจน ด้วยเครื่องเลเซอร์รักษารอยสิวที่ได้มาตรฐาน USFDA จากสหรัฐอเมริกา

6.รักษาหลุมสิวและกระชับรูขุมขนด้วย Fractional RF

Fractional RF หรือ Fractional Radio Frequency คือ เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ส่งลงไปใต้ชั้นผิวหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการซ่อมแซมตัวเองของผิว เหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิว รอยแผลเป็น รูขุมขนกว้างจากสิวเสี้ยน และริ้วรอยเล็ก ๆจากการเป็นสิวได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทำควบคู่กับ TCA CROSS เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

รักษาหลุมสิว

7. รักษาหลุมสิวด้วย TCA CROSS

TCA CROSS คือ โปรแกรมการรักษาหลุมสิวด้วยการใช้กรดอินทรีย์ Trichloro-Acetic Acid (TCA) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วยการสร้างความระคายเคืองเล็กน้อยบริเวณที่เป็นหลุมสิว ส่งผลให้เกิดการสร้างผิวใหม่ที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น เหมาะกับคนไข้ที่มีหลุมสิวประเภท ICE PICK Scars  ที่เป็นหลุมสิวที่ลึกและแคบ เห็นผลได้ชัดเจนเหมาะสำหรับทำควบคู่ไปกับ Fractional RF

รักษาหลุมสิว TCA Cross

8. รักษาด้วยการกดสิว ฉีดสิว และ Photodynamic Therapy

ในกรณีที่มีอาการสิวไม่มาก คนไข้สามารถเลือก Acne Clear Program ได้ คอร์สนี้รวมค่าปรึกษาแพทย์ และสามารถกดสิวและฉีดสิวได้แบบไม่จำกัดจุด เหมาะกับการรักษาสิวแบบไม่รุนแรง โดยสิวที่อักเสบรุนแรงสามารถยุบลงเองได้ภายใน 2-3 วัน และจำนวนสิวจะค่อย ๆ ลดลงจากการฉายแสงฆ่าเชื้อ

9 วิธีการป้องกันและรักษาสิวด้วยตัวเอง

9. รักษาสิวด้วยการใช้ยา

The One Clinic มีสูตรยาและเวชสำอางเฉพาะกว่า 100 ชนิด ที่ใช้ในการรักษาสิวทุกประเภท ตั้งแต่ สิวผด สิวอักเสบ สิวหัวช้าง สิวหนอง สิวมีหัว และไม่มีหัว แพทย์ผู้ชำนาญการของเราสามารถเลือกใช้ยาและเวชสำอางที่เหมาะสมเพื่อการรักษาสิวที่ถูกต้องถึงต้นตอของปัญหาสิวอย่างแท้จริง

1. ล้างหน้าให้สะอาด

ควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับประเภทผิวของคุณ เช่น คนผิวแห้งควรใช้เจลล้างหน้าแทนสบู่หรือโฟม คนที่มีผิวมันเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มี Sodium Laury Sulfate (SLS) เพราะว่า SLS เหมาะกับการลดน้ำมันบนผิว ส่วนคนที่มีผิวแพ้ง่ายก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน ไม่มีพาราเบนหรือแอลกอฮอล์

2. หลีกเลี่ยงการแคะ/แกะ/เกาสิว

การแกะหรือเกาบริเวณที่เป็นสิวอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและรอยแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสิวด้วยมือเปล่า

3. สระผมให้สะอาดอยู่เสมอ

การสระผมให้สะอาดจะช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคและน้ำมันที่บริเวณใบหน้า โดยเลือกใช้แชมพูที่เหมาะสมและทำความสะอาดหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ 

4. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า 

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารก่อการระคายเคืองผิว อาทิ พาราเบน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ เพื่อลดการเกิดสิวและการระคายเคืองผิว

5. ทานของมันน้อยลง

อาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอดและขนมขบเคี้ยว อาจทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น ควรลดการบริโภคเพื่อช่วยลดการเกิดสิว

6. พักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ เพราะว่าสิวก็เป็น Pathology แบบหนึ่งที่ร่างการต้องใช้เวลาและภูมิคุ้มกันในการฟื้นฟูจากการอักเสบ หากคุณนอนหลับเพียงพอก็จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและรักษาสมดุลฮอร์โมนได้ดีขึ้น

7. การเปลี่ยนหน้ากากอนามัยเป็นประจำ

ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของแบคทีเรียและน้ำมันที่อาจก่อให้เกิดสิว

8. ลด/เลิก การดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์ทำให้ผิวแห้งและเพิ่มการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน เมื่อมีการกระตุ้นให้ผลิตมากขึ้นในระยะเวลาถี่ ๆ ก็จะทำให้ร่างกายเคยชินกับภาวะ Over production of oil ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว นอกจากนี้แอลกอฮอล์ก็ยังรบกวนการฟื้นฟูและส่งเสริมปฏิกริยา Radical oxidization ซึ่งมีผลต่อปัญหาผิวแก่วัยและริ้วรอยอีกด้วย

9. ทานผลไม้ที่มี AHA และ Antioxidant สูง

การรับประทานผลไม้ที่มี AHA และ Antioxidant เป็นประจำก็สามารถช่วยให้ผิวใส ฟื้นฟูผิวได้จากภายใน และช่วยป้องกันการอักเสบได้ดี อาทิ ส้ม ฝรั่ง สับปะรด องุ่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นต้น

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาสิว

FAQ รักษาสิว

Q : อยู่ดี ๆ สิวเห่อเต็มหน้า ต้องรักษาอย่างไร?

A : หมอแนะนำให้เริ่มต้นจากการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนในช่วงเช้า-เย็น หลีกเลี่ยงการแกะเกาสิว และใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide หรือ Salicylic Acid ร่วมด้วย เพื่อช่วยลดการอักเสบและควบคุมการเกิดสิวใหม่ แต่ถ้าสิวยังไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

Q : วิธีรักษาสิวที่เร็วที่สุดคือวิธีไหน?

A : การใช้BP + Retinoids ควบคู่กับการเลเซอร์จะช่วยร่นระยะเวลาการรักษาสิวได้มากขึ้น โดยประเภทของเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับชนิดของสิว นอกจากนี้ก็ควรหมั่นทา Moisturiser เป็นประจำ เพื่อเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ปัญหาสิวที่เกิดจากการระคายเคืองก็จะลดลง

Q : รักษาสิวกี่วันถึงจะหายดี?

A : ระยะเวลาการรักษาสิวอาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิวและวิธีการรักษา แต่โดยทั่วไปการรักษาสิวจะเริ่มเห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์ (เนื่องจากเซลล์ผิวจะผลัดทุก ๆ 28 วัน) และอาจต้องใช้เวลาถึง 8-12 สัปดาห์เพื่อให้สิวหายขาด ในบางกรณีที่สิวรุนแรงอาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น และขึ้นอยู่กับสภาวะของผู้รับการรักษาด้วย เช่น ผู้ที่ตั้งครรภ์อาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงยาบางชนิด หรือผู้ที่มีอาการแพ้ยาบางกลุ่ม เป็นต้น

รักษาสิวโดยแพทย์ ปรึกษา The One Clinic ได้ทุกวัน

The One Clinic คลินิกผิวหนังย่านห้วยขวาง พร้อมให้คำปรึกษาและรักษาสิวทุกประเภทอย่างตรงจุดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ ด้วยโปรแกรมตรวจเชื้อสิวที่ช่วยให้แพทย์เข้าใจปัญหาและออกแบบการรักษาแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Program) อย่างมีประสิทธิภาพ สิวซ้ำซากจะไม่กลับมาเป็นอีก พร้อมฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวหรือปัญหาผิวอื่น ๆ แวะมาที่คลินิกได้ทุกวันค่ะ

บทความที่คล้ายกัน

เซ็บเดิร์ม

เซ็บเดิร์ม คืออะไร? เซ็บเดิร์มที่หน้าและศีรษะ รักษาให้หายได้ไหม?

เซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) คืออะไร? รู้วิธีรักษาและควบคุมอาการผื่นแดงคันจากเซ็บเดิร์มที่หน้าและศีรษะ พร้อมวิธีป้องกันในการดูแลผิวจาก The One Clinic

สิวอุดตัน

สิวอุดตันเต็มหน้า! เกิดจากสาเหตุอะไร? ป้องกันและรักษาอย่างไรให้หายขาด?

สิวอุดตันขึ้นเต็มหน้าเสียความมั่นใจ? รู้จักกับสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิวอุดตัน พร้อมวิธีดูแลผิวอย่างถูกวิธีกับ The One Clinic เพื่อผิวหน้าที่กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง

สิวที่หน้าผาก

สิวที่หน้าผาก เกิดจากอะไร รู้สาเหตุ พร้อมวิธีป้องกันและรักษาไม่ให้เกิดซ้ำ

สิวขึ้นที่หน้าผากอาจเกิดจากฮอร์โมน ความมันบนผิว หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม รู้สาเหตุ พร้อมวิธีป้องกันและรักษาสิวไม่ให้เกิดซ้ำ เพื่อผิวหน้าที่เรียบเนียนและสุขภาพดี