สิวที่ปาก ขึ้นรอบปาก มุมปาก รู้ลึกถึงสาเหตุและวิธีรักษาให้ได้ผล

“สิวที่ปาก” เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะเมื่อสิวขึ้นรอบปากหรือบริเวณมุมปาก ซึ่งนอกจากจะสร้างความเจ็บปวดและไม่สบายตัวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันอีกด้วย สิวในบริเวณนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การระคายเคืองจากเครื่องสำอางที่ใช้บริเวณริมฝีปาก การแพ้ยาสีฟัน หรือแม้กระทั่งฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงและความเครียด The One Clinic จะพาคุณมารู้ลึกถึงสาเหตุของการเกิดสิวที่ปากอย่างละเอียด และวิธีการรักษาเพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจน

สรุป สิวที่ปาก รู้สาเหตุและวิธีรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผล
  • สิวที่ปาก เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การอุดตันของรูขุมขน การสัมผัสบ่อย ความชื้น เครื่องสำอาง ยาสีฟันที่มีสารเคมี ฮอร์โมน และการใส่หน้ากากอนามัยนาน ๆ
  • ปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้สิวที่ปากแย่ลง ได้แก่ การสัมผัสริมฝีปากบ่อย ๆ การนอนคว่ำ การสูบบุหรี่ ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปาก ยาสีฟัน อาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
  • ประเภทของสิวที่ปาก มีหลายชนิด เช่น สิวอุดตัน สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวอักเสบ และสิวหัวช้าง โดยแต่ละชนิดมีลักษณะและวิธีการรักษาเฉพาะ
  • สัญญาณเตือน สิวที่ปากอาจบอกถึงสุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดีหรือแผลในปาก
  • วิธีรักษา: ทำความสะอาดผิว ลดการสัมผัส ใช้ยาแต้มสิว และการรักษาทางการแพทย
  • การป้องกัน: รักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสรอบปาก ดูแลอาหาร และจัดการความเครียด

สารบัญ

เจาะลึกถึงสาเหตุ! สิวที่ปากเกิดจากอะไร?

สิวที่ปากมีสาเหตุหลักที่คล้ายคลึงกับสิวบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้า ซึ่งเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนโดยน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรีย ทำให้รอบปากเป็นบริเวณที่มีปัจจัยเสี่ยงจะเกิดสิวได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น ดังนี้:

  • การสัมผัส:

 การสัมผัสบริเวณปากบ่อยครั้ง เช่น การเท้าคาง การเช็ดปาก และการรับประทานอาหาร สามารถนำสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเข้าสู่รูขุมขนได้ง่ายขึ้น

  • ความชื้น

ริมฝีปากและผิวรอบปากมีความชื้นสูงกว่าบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้า ซึ่งส่งผลให้เป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

  • เครื่องสำอาง

ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปาก เช่น ลิปสติกและลิปบาล์ม บางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน จนนำไปสู่การเกิดสิว

  • ยาสีฟัน

ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารเคมี เช่น Sodium Lauryl Sulfate (SLS) สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นการเกิดสิวรอบปาก

  • ฮอร์โมน

ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นสิว โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น รอบเดือน หรือการตั้งครรภ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

  • หน้ากากอนามัย

การสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานานสามารถทำให้เกิดการเสียดสี ความอับชื้น และการสะสมของเหงื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้สิวบริเวณปากเกิดขึ้นได้ง่าย

การทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้สามารถเลือกวิธีการดูแลและป้องกันสิวที่ปากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้สิวที่ปากแย่ลง

นอกจากสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดสิวที่ปากแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจทำให้สิวที่ปากมีอาการแย่ลงได้ ซึ่งเราควรรู้เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้สิวลุกลาม อีกทั้งยังช่วยให้การรักษาสิวหายเร็วขึ้น ตาม The One Clinic มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง?

  • พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

      • การสัมผัสริมฝีปาก: เรามักสัมผัสบริเวณปากบ่อย ๆ เช่น การเอามือเท้าคาง การเช็ดปาก การรับประทานอาหาร ทำให้สิ่งสกปรกและเชื้อโรคเข้าสู่รูขุมขนได้ง่าย
      • การสวมหน้ากากอนามัย: การสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน ๆ ทำให้เกิดการเสียดสี ความอับชื้น และการสะสมของเหงื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น ควรเลือกใช้หน้ากากอนามัยที่ระบายอากาศได้ดี และเปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อย ๆ เพื่อป้องกันความอับชื้น
      • การนอนคว่ำหน้า: การนอนคว่ำหน้าทำให้ใบหน้าสัมผัสกับปลอกหมอนโดยตรงเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งอาจมีสิ่งสกปรกและแบคทีเรียสะสมอยู่ ทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น
      • การสูบบุหรี่: สารพิษในบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคืองง่าย และเกิดสิวได้
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

      • ลิปสติก ลิปบาล์ม: ลิปสติกหรือลิปบาล์มบางชนิดมีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน เช่น น้ำมัน ขี้ผึ้ง หรือสารกันแดด ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Non-comedogenic” เพื่อป้องกันการอุดตัน
      • ยาสีฟัน: ยาสีฟันบางชนิดมีส่วนผสมของสารเคมี เช่น Sodium Lauryl Sulfate (SLS) ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและสิวรอบปากได้ ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่อ่อนโยน และปราศจาก SLS หรือมีปริมาณ SLS ที่น้อย
      • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: ครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันและระคายเคือง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและระบุว่า “Non-comedogenic” หรือ “Oil-free”
  • อาหารบางชนิด

      • อาหารที่มีไขมันสูง: เช่น ของทอด ของมัน อาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น
      • อาหารที่มีน้ำตาลสูง: เช่น น้ำอัดลม ขนมหวาน อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น กระตุ้นการอักเสบและทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น
      • ผลิตภัณฑ์จากนม: นมวัว ชีส หรือไอศกรีมที่มีส่วนผสมของนมในปริมาณมาก อาจกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนในบางคน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  • ปัจจัยด้านสุขภาพ

      • ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงวัยรุ่น ช่วงมีประจำเดือน หรือตั้งครรภ์ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ
      • ความเครียด: ความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมน ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป อุดตันรูขุมขนและเกิดสิวได้ง่ายขึ้น
      • การพักผ่อนไม่เพียงพอ: การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เกิดการอักเสบและเกิดสิวได้ง่ายขึ้น
  • สิ่งแวดล้อม

    • มลภาวะ: ฝุ่นละออง ควันพิษ และสิ่งสกปรกในอากาศ ล้วนเป็นตัวการที่ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้

ความร้อนและความชื้น: เป็นสภาวะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความร้อนหรือความชื้นสูง

ประเภทของสิวที่ปาก

ลักษณะสิวที่ปาก

สิวที่ปากมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะ สาเหตุ และวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเราจึงควรแยกประเภทของสิวที่ปากให้ชัดเจน เพื่อการรักษาที่เห็นผล

1. สิวอุดตัน (Comedones)

เป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหรือสีดำ มักไม่มีอาการเจ็บ แต่บางครั้งอาจมีอาการคันร่วมด้วย

2. สิวหัวขาว (Whiteheads):

เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว มองเห็นเป็นตุ่มสีขาวอยู่ใต้ผิวหนัง

3. สิวหัวดำ (Blackheads)

เกิดจากการอุดตันเช่นเดียวกับสิวหัวขาว แต่รูขุมขนเปิด ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) กับออกซิเจนในอากาศ หัวสิวจึงเปลี่ยนเป็นสีเข้มที่เรียกว่าสิวหัวดำ
และการผลิตน้ำมันส่วนเกิน การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การใช้เครื่องสำอางที่ก่อการระคายเคือง หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ก่อให้เกิดการอุดตัน

4. สิวอักเสบ (Inflammatory Acne)

ลักษณะเป็นตุ่มแดง บวม มีหนอง มักมีอาการเจ็บ อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

5. สิวตุ่มแดง (Papules)

เป็นตุ่มนูนแดงขนาดเล็ก ไม่มีหัวหนอง

6. สิวหนอง (Pustules)

เป็นตุ่มแดง มีหัวหนองสีขาวหรือสีเหลืองอยู่ตรงกลาง และมีความรู้สึกปวดบวมร่วมด้วย เกิดการอักเสบของรูขุมขน การติดเชื้อแบคทีเรีย P. acnes ฮอร์โมน และความเครียดสะสม

7. สิวหัวช้าง (Nodules)

ลักษณะ: เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่ง มีขนาดใหญ่ แข็ง อยู่ลึกใต้ผิวหนัง มีหนองอยู่ข้างใน มักมีการอักเสบ รู้สึกปวดบวมมาก และอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้หลังจากหายแล้ว สาเหตุเกิดจากการอักเสบรุนแรงของรูขุมขนและการติดเชื้อแบคทีเรีย

8. สิวซีสต์ (Cysts)

ลักษณะ: คล้ายสิวหัวช้าง แต่มีขนาดใหญ่กว่า อ่อนนุ่มกว่า และมักมีหนองอยู่ข้างใน มักเกิดขึ้นบริเวณรอบปาก คาง และกราม
สาเหตุ: การอักเสบรุนแรงของรูขุมขน การติดเชื้อแบคทีเรีย และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

สิวที่ปากบอกอะไร สัญญาณเตือนร่างกายหรือไม่?

จริง ๆ แล้วสาเหตุของสิวที่ปากนั้นคล้ายกับการเกิดสิวที่ใบหน้าส่วนอื่น ๆ นั่นคือการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่:

  • การผลิตน้ำมันส่วนเกิน: ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป
  • เซลล์ผิวที่ตายแล้ว: เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไม่หลุดออก จึงไปอุดตันรูขุมขน
  • แบคทีเรีย: การสะสมของแบคทีเรีย โดยเฉพาะ P. acnes ที่ทำให้เกิดการอักเสบของผิวและเป็นสิว

ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่บ่งชี้ชัดเจนว่าสิวที่ปากเป็นสัญญาณเตือนโรคอื่น ๆ แต่การที่สิวขึ้นบริเวณปากบ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพในช่องปาก เช่น:

  • สุขอนามัยช่องปากไม่ดี: การแปรงฟันไม่สะอาด หรือไม่แปรงฟันเป็นประจำ ทำให้เกิดการสะสมของคราบพลัคและแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคเหงือก และลุกลามไปยังผิวหนังรอบปาก จนทำให้เกิดสิวได้
  • แผลในปาก: แผลในปาก เช่น ร้อนใน หรือแผลแอฟทัส (Aphthous ulcers หรือแผลเปื่อยในปาก) อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบและลุกลามไปยังผิวหนังรอบปาก ทำให้เกิดสิวได้

ดังนั้น การดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาด แปรงฟันอย่างถูกวิธี และดูแลรักษาแผลในปาก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดสิวที่ปากได้ค่ะ

วิธีรักษาสิวที่ปาก

การรักษาสิวที่ปากขึ้นอยู่กับชนิดของสิว ความรุนแรง และสาเหตุ ลองดูวิธีการรักษาเบื้องต้นที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และควรพบแพทย์เมื่อสิวมีอาการรุนแรงขึ้น:

  1. การดูแลตัวเอง:

    • รักษาความสะอาด: ล้างหน้าวันละสองครั้งด้วยเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน เช็ดทำความสะอาดรอบปากหลังรับประทานอาหาร และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
    • ประคบเย็น: หากสิวมีอาการบวมแดง แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณที่เป็นสิว วันละหลายครั้ง ครั้งละประมาณ 10-15 นาที เพื่อลดการอักเสบและการบวม
    • ใช้ยาแต้มสิว: เลือกใช้ยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide บริเวณที่เป็นสิว วันละ 1-2 ครั้ง ตามคำแนะนำบนฉลากยา
    • หลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือบีบสิว: การแกะ เกา หรือบีบสิวอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อรุนแรงขึ้น และทิ้งรอยแผลเป็นบนผิวได้
  2. การรักษาอื่น ๆ: 

    • ยา: แพทย์อาจพิจารณาจ่ายยา เช่น ยาปฏิชีวนะ ยากลุ่ม Retinoids หรือยาฮอร์โมน ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของสิว
  3. Treatment:

  • แพทย์ผิวหนังอาจแนะนำการกดสิว หรือการฉีดสิว เพื่อช่วยในการรักษาสิวและลดความรุนแรงของสิว

ข้อสังเกตเมื่อควรพบแพทย์:

  • สิวมีอาการรุนแรง: เช่น สิวอักเสบ สิวหัวช้าง หรือสิวที่เป็นหนอง
  • สิวไม่หายหลังจากการดูแลตัวเอง: หากลองดูแลตัวเองตามวิธีข้างต้นแล้ว แต่สิวยังไม่ดีขึ้น หรือมีแนวโน้มแย่ลง
  • สิวทำให้เกิดความกังวลใจ: หากสิวรุนแรงขึ้นหรือลุกลามจนส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ หรือทำให้รู้สึกไม่สบายใจ

ข้อควรระวัง:

  • การใช้ยา: ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด

การรักษา: การรักษาสิวบางวิธีอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวแห้ง ระคายเคือง หรือแสบร้อน ควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัย

ป้องกันสิวที่ปาก

สิวที่ปากเป็นปัญหาที่น่ารำคาญใจและยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ก็มีหลากหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสิวที่ปาก

  • รักษาความสะอาด:

      • ล้างหน้าเป็นประจำ: ล้างหน้าวันละสองครั้งด้วยเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน และควรล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดทุกครั้ง
      • ทำความสะอาดรอบปาก: หลังรับประทานอาหาร ควรเช็ดทำความสะอาดรอบปากด้วยกระดาษทิชชู่หรือทำความสะอาดใบหน้า
      • เปลี่ยนปลอกหมอน: ควรเปลี่ยนปลอกหมอนเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย
      • หลีกเลี่ยงการสัมผัสริมฝีปากบ่อย ๆ: พยายามอย่าเอามือสัมผัสริมฝีปากบ่อย ๆ เพราะมืออาจมีเชื้อโรคที่กระตุ้นให้เกิดสิวได้
  • ใส่ใจพฤติกรรมต่าง ๆ มากขึ้น:

    • ระวังอาหาร: อาหารบางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารทอด และผลิตภัณฑ์จากนม ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่
    • ดื่มน้ำ: ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียและผิวพรรณสดใส
    • พักผ่อน: นอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อลดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
    • จัดการความเครียด: ความเครียดอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ควรหาวิธีจัดการความเครียด เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ การออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือการฟังเพลงที่ชอบ
    • ปรึกษาแพทย์: หากมีสิวที่ปากเรื้อรัง หรือมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

The One Clinic แชร์เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • เลือกใช้ยาสีฟันที่ไม่ผสมสาร SLS: เพราะสาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) ในยาสีฟันบางชนิดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและสิวรอบปากได้
  • ทาลิปบาล์ม: ริมฝีปากแห้งอาจทำให้เกิดสิวได้ ควรทาลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ
  • ระวังการใช้เครื่องสำอางรอบปาก: ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่ก่อให้เกิดสิว และทำความสะอาดเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนนอน
  • อย่าแกะ เกา หรือบีบสิว: การแกะ เกา หรือบีบสิวอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และเป็นแผลเป็นได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวที่ปาก

Q : สิวที่ปากกับเริม แตกต่างกันอย่างไร?

A : แม้ว่าสิวที่ปากกับเริมจะดูคล้ายกัน แต่ทั้งสองอย่างนี้เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน และมีลักษณะที่ช่วยให้แยกแยะได้ The One Clinic มีตารางเปรียบเทียบความแตกต่างมาให้ดูกันค่ะ

 

สิว

เริม

สาเหตุ

การอุดตันของรูขุมขน

การติดเชื้อไวรัส

ลักษณะ

ตุ่มแดง ตุ่มหนอง สิวหัวดำ

ตุ่มน้ำใส เป็นกลุ่ม แตกเป็นแผล

อาการ

อาจมีอาการเจ็บ หรือไม่มีอาการ

เจ็บ แสบ คัน

ตำแหน่ง

รอบปาก

ริมฝีปาก หรือรอบปาก

การรักษา

ยาแต้มสิว การดูแลความสะอาด

ยาต้านไวรัส

Q : สิวที่มุมปากบีบได้ไหม?

A : โดยทั่วไปแล้ว ไม่แนะนำให้บีบสิวมุมปาก หรือแม้จะเป็นสิวที่ตำแหน่งใด ๆ บนใบหน้าก็ตาม เนื่องจากการบีบสิวอาจทำให้เกิดผลเสีย เช่น การอักเสบ การติดเชื้อเป็นสิวหัวช้าง และทำให้เกิดแผลเป็นได้ค่ะ

Q : การใช้ลิปสติกหรือบำรุงริมฝีปากทำให้เกิดสิวที่ปากได้ไหม?

A : ใช่ค่ะ การใช้ลิปสติกหรือลิปบาล์มบางชนิดอาจทำให้เกิดสิวที่ปากได้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Non-comedogenic” จะช่วยหลีกเลี่ยงการอุดตันและการเกิดสิวได้

Q : ยาสีฟันมีผลทำให้เกิดสิวหรือไม่?

A :  แม้ว่าจะดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ยาสีฟันบางชนิดอาจมีส่วนทำให้เกิดสิวได้ค่ะ โดยเฉพาะสิวที่บริเวณรอบปากได้ ทุกครั้งที่แปรงฟันต้องล้างยาสีฟันออกให้หมด ถ้ายังมีอาการสิวที่ริมฝีปากขึ้นต่อเนื่องให้ลองสังเกตอาการ หากพบว่ามีสิวขึ้นควรหยุดใช้ยาสีฟันยี่ห้อที่ใช้อยู่ และลองเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นทันทีค่ะ

"ปรึกษา The One Clinic ดูแลสิวที่ปาก รอบปาก ให้ผิวหน้าเรียบเนียนอีกครั้ง"

The One Clinic รักษาสิวถึงต้นตอ ดูแลโดยแพทย์ทุกขั้นตอน

หากคุณมีปัญหาสิวเรื้อรัง และรักษาด้วยตัวเองแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ขอแนะนำให้มาปรึกษาแพทย์ที่ The One Clinic คลินิกเฉพาะทางด้านผิวหนังย่านห้วยขวาง เรามีโปรแกรมรักษาสิว ยาสูตรเฉพาะ พร้อมกับการประเมินอาการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อออกแบบการรักษาสิวที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล ไม่เลี้ยงไข้ ไม่ขายคอร์สเสริม เพื่อให้คุณมีผิวที่แข็งแรง ไร้สิว และไร้ริ้วรอย 

โปรแกรมแนะนำสำหรับคุณ

1. ตรวจเชื้อสิว

ตรวจเชื้อสิวครั้งละ 500 บาท

2. Acne Clear Laser

รักษาสิวด้วยเลเซอร์ 12 ขั้นตอน ที่ The One Clinic

3. คลื่นวิทยุ Acgen

Acgen รักษาสิว

บทความที่คล้ายกัน

สิวที่ปาก

สิวที่ปาก ขึ้นรอบปาก มุมปาก รู้ลึกถึงสาเหตุและวิธีรักษาให้ได้ผล

สิวที่ปากและมุมปากเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รู้จักวิธีรักษาที่ได้ผลและปลอดภัย พร้อมเคล็ดลับการดูแลผิวให้ห่างไกลจากสิวบริเวณรอบปากไม่ให้เกิดซ้ำ

ผมบาง

ผมบางก็กลับมาหนาได้! รู้สาเหตุ วิธีป้องกันและรักษาให้ตรงจุด บอกลาปัญหาผมขาดร่วง

บอกลาปัญหาผมบาง! เพียงรู้สาเหตุของผมบางและผมร่วง พร้อมวิธีป้องกันและวิธีรักษาอย่างตรงจุด เพื่อฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาหนา แข็งแรง หมดปัญหาผมขาดหลุดร่วง

สิวที่คอ

สิวที่คอเป็นซ้ำ ๆ ซาก ๆ เกิดจากอะไร? ควรดูแลและรักษาอย่างไรให้หาย

สิวที่คอเกิดจากอะไร? รู้สาเหตุที่ทำให้สิวที่คอเป็นซ้ำ ๆ พร้อมคำแนะนำวิธีการดูแลและรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผิวกลับมาเนียนใสไร้สิวไม่เกิดซ้ำ