ผมร่วงเป็นหย่อม หรือ Alopecia Areata คือ ภาวะผมร่วงผิดปกติที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายโจมตีเซลล์ที่รากผม ส่งผลให้ผมร่วงมากขึ้นผิดปกติเป็นหย่อมหรือเป็นกระจุก ผมร่วงเป็นหย่อมแม้จะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงแต่ก็มักสร้างความกังวลใจให้ใครหลายๆ คน โดยเฉพาะหากผมเกิดผมร่วงกินเป็นวงกว้างบริเวณหนังศีรษะ ทำให้ความมั่นใจในชีวิตประจำวันลดลง และในบางรายอาจมีขนร่วงตามส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย
ซึ่งโรคนี้เกิดขึ้นได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย ในวันนี้เรามีดูกันว่าจะมีวิธีการรักษาเพื่อหยุดการหลุดร่วงและกระตุ้นให้เส้นผมงอกขึ้นใหม่ได้อย่างไรบ้าง?
- ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีรากผม ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ มีลักษณะเป็นวงกลม ขนาดของหย่อมผมร่วงจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน อาจพบในส่วนต่าง ๆ ของศีรษะหรือบริเวณอื่น ๆ บนร่างกาย
- มักพบได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในวัยเด็กและวัยรุ่น สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางพันธุกรรม, ความเครียด และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม
- วิธีการรักษา ได้แก่ การใช้ยาทา, ยาฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่รากผม, การรักษาด้วย PRP (Platelet-Rich Plasma) ซึ่งเป็นการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นจากเลือดตัวเองเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของผม
- ในกรณีที่ผมร่วงอย่างรุนแรง อาจพิจารณาวิธีการปลูกผมเพื่อเสริมรากผมที่หายไป
สารบัญ
- โรคผมร่วงเป็นหย่อม คืออะไร และสาเหตุเกิดจากอะไร?
- ลักษณะอาการผมร่วงเป็นหย่อม
- ผมร่วงเป็นหย่อม พบได้ในกลุ่มใดบ้าง?
- ผมร่วงเป็นหย่อมอันตรายไหม? ผมร่วงมากขนาดไหนถึงควรพบแพทย์?
- ความแตกต่างระหว่าง ผมร่วงเป็นหย่อม และ ผมร่วงเป็นหย่อมจากเชื้อรา
- การวินิจฉัยโรคผมร่วงเป็นหย่อม
- แนวทางการรักษาอาการผมร่วงเป็นหย่อม
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผมร่วงเป็นหย่อม
- สรุป
โรคผมร่วงเป็นหย่อม คืออะไร และสาเหตุเกิดจากอะไร?
Alopecia Areata หรือโรคผมร่วงเป็นหย่อม เป็นโรคที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์ของเส้นผมในร่างกาย ส่งผลให้ผมร่วงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน และสามารถลุกลามไปจนผมร่วงหมดศีรษะ (Alopecia Totalis) หรือรุนแรงจนเป็นโรคผมร่วงทั่วร่างกายได้ (Alopecia Universalis)
โดยจากการศึกษาพบว่า ประมาณ 2% ของประชากรทั้งหมดจะมีปัญหาผมร่วงเป็นหย่อมอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
ในบางกรณี เส้นผมอาจกลับมางอกขึ้นเองโดยไม่ต้องรักษา แต่หากมีอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาเพิ่มเติมและหาวิธีดูแลสุขภาพเส้นผมให้ดีขึ้น
สาเหตุของผมร่วงเป็นหย่อมยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มีความเป็นไปได้ว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อมอาจมีสาเหตุจากพันธุกรรม และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ไม่ว่าจะเป็น ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเส้นผม หรือฮอร์โมนเพศขณะตั้งครรภ์หรือวัยหมดประจำเดือน รวมทั้งสภาวะสุขภาพที่ไม่ดี เช่น ความเครียด โรคซึมเศร้า โรคภูมิแพ้ โรคไทรอยด์ การติดเชื้อไวรัสบางชนิด หรือ ความเจ็บป่วยที่รุนแรง
ลักษณะอาการผมร่วงเป็นหย่อม
อาการของผมร่วงเป็นหย่อมจะมีเพียงผมร่วงเท่านั้น ไม่มีอาการคันหรือแสบร้อนในบริเวณที่ผมร่วง และไม่มีแผลหรือผื่นขึ้น แต่ในผู้ป่วยบางราย เล็บมือ เล็บเท้าอาจมีอาการผิดปกติ เช่น สีเล็บแปลกไป หน้าเล็บขรุขระ บางกว่าปกติ
โรคผมร่วงเป็นหย่อมมักมีผลทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายใจหรือเครียด เพราะกระทบต่อความมั่นใจและรูปลักษณ์ภายนอก ดังนั้น การรักษาและดูแลสุขภาพที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรับมือกับโรคนี้
ผมร่วงเป็นหย่อมเกิดขึ้นกับใครได้บ้าง?
โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย แต่ส่วนใหญ่มักพบในผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-40 ปี และพบในเพศหญิงอายุต่ำกว่า 45 ปี มากกว่าเพศชายเล็กน้อย
ภาวะที่พบร่วมกับอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ
แม้ว่าภาวะผมร่วงเป็นหย่อมโดยตัวมันเองจะไม่ได้เป็นอันตรายหรือส่งผลกระทบใด ๆ ต่อสุขภาพแต่ก็ยังพบว่ามีบางภาวะและโรคที่สามารถเกิดขึ้นร่วมกับอาการผมร่วงเป็นหย่อมได้ ดังนี้
ผื่นแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis)
ผู้ที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ มีความเสี่ยงที่จะเกิดผื่นแพ้ตามผิวหนัง หรือที่เรียกว่า Atopic Dermatitis ร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้ผิวบริเวณที่เกิดอาการมีลักษณะแห้งลอก มีผื่นแดง คัน และมักจะเป็นในบริเวณเดียวกับที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อม
โรคด่างขาว (Vitiligo)
โรคด่างขาว หรือ Vitiligo เป็นภาวะทางผิวหนังที่เกิดจากการที่เซลล์ผิวหนังไม่สามารถสร้างเม็ดสีหรือเมลานินได้ ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้น ๆ มีสีขาวอย่างผิดปกติขึ้นมา และอาจจะเป็นในบริเวณเดียวกับที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อม
โรคของต่อมไทรอยด์ (Thyroid disease)
มีการศึกษาพบว่าผู้ที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เนื่องจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่อาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งโรคที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย (Hypothyroidism) หรือต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกิน (Hyperthyroidism)
โรคของเส้นเลือดและคอลลาเจน (Collagen-vascular disease)
โรคที่เกิดขึ้นกับหลอดเลือดและคอลลาเจน ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์ตัวเอง มีความเชื่อมโยงกับการเกิดอาการผมร่วงเป็นหย่อมได้เช่นกัน เนื่องจากมีการทำลายเซลล์ของรากผมและเส้นผม ตัวอย่างโรคในกลุ่มนี้ เช่น โรคลูปัส (Lupus) เป็นต้น
โรคกังวล (Anxiety)
แม้โดยส่วนใหญ่สาเหตุของอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ ยังไม่ชัดเจน แต่มีบางการศึกษาที่บ่งชี้ว่า ความเครียด ความกังวล และความผิดปกติทางจิตใจบางประเภท อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการผมร่วงเป็นหย่อมขึ้นได้ หากปล่อยให้มีความเครียดและวิตกกังวลเป็นระยะเวลานาน ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเผชิญกับ Alopecia Areata ได้เช่นกัน
ผมร่วงเป็นหย่อมอันตรายไหม? ผมร่วงมากขนาดไหนถึงควรพบแพทย์?
ผมร่วงเป็นหย่อมไม่ใช่โรคที่อันตรายต่อชีวิต แต่มีผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวัน และอาจมีผลทางจิตใจค่อนข้างมากโดยเฉพาะในผู้ที่ผมร่วงกินบริเวณกว้างเกือบทั่วศีรษะหรือมีผมร่วงมากกว่า 50% ของจำนวนผมบนศีรษะ ซึ่งในบางกรณี อาการอาจกลับมาดีขึ้นเองได้โดยไม่ต้องรักษา
นอกจากนี้ อาการผมร่วงเป็นหย่อม อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่างๆ เช่น โรคไทรอยด์ และ โรคภูมิแพ้ตัวเอง เป็นต้น
แล้วผมร่วงมากขนาดไหนล่ะถึงควรพบแพทย์? ในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคและความรุนแรงของอาการ หากมีอาการผมร่วงเป็นจุดๆ และไม่มีอาการทางผิวหนังอื่นๆ เช่น คัน เป็นแผล และไม่กระทบต่อใช้ชีวิตประจำวัน คุณอาจไม่จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
แต่หากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คัน เป็นแผลบนหนังศีรษะ หรือผมร่วงมากกว่า 10-20% ของจำนวนผมบนศีรษะ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาเพิ่มเติม โดยแพทย์จะดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุของโรคเพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
ความแตกต่างระหว่าง ผมร่วงเป็นหย่อม และ ผมร่วงเป็นหย่อมจากอาการอื่นๆ เช่น แผลติดเชื้อ หรือ การแพ้สารเคมี
นอกเหนือจากอาการผมร่วงเป็นหย่อมที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติอย่างที่เราได้กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมจากสาเหตุอื่นๆ ที่ควรระมัดระวัง เช่น การติดเชื้อราบนหนังศีรษะ เชื้อแบคทีเรีย หรือการแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม (เช่น ยาย้อมผม ยืดผม และดัดผม)
โดยให้สังเกตุความแตกต่างจากอาการอื่นๆ ที่มักจะเกิดขึ้นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น อาการคัน การเกิดแผลบนหนังศีรษะ หรือเส้นผมเปราะบางแตกหักง่าย ซึ่งถ้าหากคุณมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมปกติ จะไม่มีอาการผิวหนังเหล่านี้เกิดขึ้น
การวินิจฉัยโรคผมร่วงเป็นหย่อม
การวินิจฉัยโรคผมร่วงเป็นหย่อมมักพิจารณาจากลักษณะของผิวหนังและศีรษะของผู้ป่วย โดยแพทย์จะตรวจสอบลักษณะและขนาดของบริเวณที่ผมร่วง หากเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมมักจะพบการผมร่วงเป็นจุดๆ เป็นวงกลมหรือมีลักษณะเป็นรูปไข่เล็กๆ โดยที่ลักษณะผิวหนังมักเรียบ และจะไม่มีอาการแดงหรือผื่นคัน
ในบางกรณีที่แพทย์สงสัยว่าอาจมีโรคอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของอาการผมร่วง เช่น โรคไทรอยด์ หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง จะต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยใช้วิธีการตรวจเชิงพยาธิวิทยา เช่น การตรวจเลือด เป็นต้น
"หมดกังวลเรื่องผมร่วงเป็นหย่อม ให้ The One Clinic ช่วยดูแลเส้นผมของคุณ"
แนวทางการรักษาอาการผมร่วงเป็นหย่อมที่ The one clinic
ที่ The one clinic เรามีการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมที่หลากหลาย และอาจมีการใช้แต่ละวิธีในทางเดี่ยวหรือผสมผสานกัน โดยวิธีการรักษาที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการของโรคในแต่ละบุคคล แนวทางการรักษาหลักๆ มีดังนี้
- การฉีดยาที่ได้รับการอนุมัติในการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม เช่น การฉีดยา Corticosteroid ลงไปบนจุดที่มีผมร่วง เป็นหย่อมโดยตรง
2. การทายา Minoxidil 5% ลงบนหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นให้ผมงอกใหม่ในช่วงแรกของการรักษาอาการผมร่วงเป็นหย่อม และการทายาประเภท Corticosteroid ลงไปในบริเวณหนังศีรษะที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมโดยตรง เพื่อลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่จะเข้าไปทำลายรากผม
3. การใช้เลเซอร์ Low Level Laser Therapy (LLLT) ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ผมงอกใหม่ได้ จากสมมุติฐานที่ว่าแสงเลเซอร์สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างผมใหม่จาก สเต็มเซลล์ บนหนังศีรษะได้
4. การให้อาหารเสริม เช่น ซิงค์ (Zinc) หรือไบโอติน (Biotin) อาจมีส่วนช่วยให้ผมงอกเร็วขึ้นได้หลังจากการรักษาอาการผมร่วงเป็นหย่อมในช่วงแรก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผมร่วงเป็นหย่อม
ผมร่วงเป็นกระจุกเกิดจากอะไร?
ภาวะผมร่วงเป็นหย่อมเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่โจมตีเซลล์ในรากผมของตัวเอง ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ส่วนมากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ ผมร่วงเป็นหย่อมเกิดจากอาจเกี่ยวข้องกับความเครียด ความกังวลหรือความผิดปกติทางฮอร์โมนในร่างกาย
โรคผมร่วงเป็นหย่อมกี่วันถึงจะหาย?
การรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม นั้นต้องใช้เวลา เนื่องจากรอบการเจริญเติบโตของเส้นผมแต่ละเส้นค่อนข้างนาน Alopecia Areata รักษาด้วยการใช้ยาทา ยาฉีด หรือการรักษาด้วยแสง โดยต้องรักษาอย่างต่อเนื่องหลายเดือนถึงเส้นผมจะกลับมางอกได้ดังเดิม วิธีรักษาผมร่วงเป็นหย่อมที่ได้ผลดีคือ การปรึกษาแพทย์ผิวหนังและรักษาให้ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ
ผมร่วงเป็นหย่อมสามารถหายเองได้ไหม
โรคผมร่วงเป็นหย่อม จะสามารถหายเองได้ภายใน 3-6 เดือน แต่ถ้ามีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น เช่น ผมร่วงมากกว่า 50% ของเส้นผมบนหนังศีรษะ หรือมีอาการทางผิวหนังอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คัน เป็นแผล ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว
ต้องรักษานานขนาดไหนหรือกี่ครั้ง
90% ของคนไข้ที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมจะมีอาการดีขึ้นภายใน 3 เดือนหลังจากการฉีดยาสเตียรอยด์ โดยปกติ เส้นผมจะงอกขึ้นประมาณ 0.5-1 เซนติเมตรต่อเดือน ดังนั้น การรักษาต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะเริ่มเห็นผล
ผมร่วงเป็นหย่อมสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม
อาการผมร่วงเป็นหย่อมสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถเป็นกลับมาได้อีกที่จุดเดิม หรือจุดใหม่
วิตามินและอาหารอะไรบ้างที่ช่วยบำรุงเส้นผมและการงอกขึ้นใหม่
อาหารเสริมต่างๆ เช่น ซิงค์ ไบโอติน มีส่วนช่วยให้เส้นผมงอกเร็วขึ้นได้หลังจากการรักษาในเบื้องต้น รวมถึงปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเชีย น้ำมันคาโนลา วอลนัท ถั่วเหลือง เต้าหู้ และพืชตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว เป็นต้น
สรุป
ผมร่วงเป็นหย่อม อาจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย ดังนั้น ควรดูแลตนเองให้แข็งแรง และหากมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมควรเข้ารับการตรวจกับแพทย์เฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม หากมีข้อสงสัยใดๆ เพิ่มเติม The One Clinic ห้วยขวาง ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคผมร่วงเป็นหย่อม