แค่เป็นสิวก็ทำให้ปวดใจพอแล้ว หมดกันความมั่นใจ แต่พอสิวหายแล้วกลับยังเหลือร่องรอยหลุมสิวทิ้งไว้ให้ไม่ลืมเลือนซะอีก จริง ๆ แล้วการเป็นสิวนั้นรักษาได้ง่ายกว่าแผลเป็นจากสิวหรือหลุมสิวมาก ๆ บางคนที่เป็นสิวฮอร์โมน ทำให้เป็นสิวเยอะกว่าปกติตั้งแต่สมัยวัยรุ่น และเมื่อสิวหายแล้วก็ทิ้งรอยหลุมสิวไว้เป็นแผลเป็นบนใบหน้า จนกลายเป็นรอยหลุมบ่อบนผิวหน้า
แม้เวลาผ่านไปจนอายุมากขึ้นแล้วก็ยังเห็นหลุมสิวเหล่านั้นหลงเหลืออยู่บนใบหน้าอยู่เลย เพราะสิวนั้นเป็นแล้วไม่นานก็หายได้ แต่ถ้าไม่ทำการรักษาอย่างถูกต้องจนกลายเป็นหลุมสิวขึ้นมา เราอาจจะต้องอยู่กับมันไปเป็นสิบ ๆ ปี
โดยปัจจุบันยังไม่มีครีมที่สามารถช่วยให้หลุมสิวหายไปได้ แต่หากมีหลุมสิวแล้วเราควรรักษาหรือจัดการกับหลุมสิวเหล่านี้อย่างไรดี The One Clinic จะช่วยไขข้อข้องใจและแนะนำการรักษาหลุมสิวให้ท่านได้ค่ะ
- หลุมสิวเกิดจากสิวอักเสบรุนแรงทำลายเนื้อเยื่อ เมื่อสิวหายคอลลาเจนสร้างทดแทนไม่เท่าเดิมเกิดเป็นรอยบุ๋ม หลุมสิวไม่สามารถหายเองได้ ต้องรักษาโดยแพทย์ผิวหนังเท่านั้น
- หลุมสิวมี 3 ชนิด ได้แก่ Ice Pick Scar (หลุมลึกปากแคบ), Boxcar Scar (หลุมตื้นหรือลึก ปากกว้างเท่าก้นหลุม), Rolling Scar (หลุมตื้นกว้าง ลักษณะคล้ายคลื่น) แต่ละชนิดต้องรักษาแตกต่างกันตามความรุนแรง
- สิวอักเสบขนาดใหญ่ลึกถึงชั้นผิวแท้ เช่น สิวหัวช้าง มีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดหลุมสิว
ยิ่งปล่อยสิวไว้นานไม่รักษา ยิ่งเสี่ยงเป็นหลุมสิวมากขึ้น - วิธีป้องกันหลุมสิวที่ดีที่สุด คือ รีบรักษาสิวให้หายไว อย่าปล่อยให้เป็นสิวอักเสบใหญ่ และห้ามบีบเค้นสิวเด็ดขาด เพราะยิ่งทำให้การอักเสบและแผลลึกมากขึ้น
- การรักษาหลุมสิว เลือกวิธีตามชนิดและความลึกของหลุม เช่น เลเซอร์ สลายผิว ปลูกถ่ายไขมัน ฉีดฟิลเลอร์ ทำ TCA ต้องใช้เวลาและอาจต้องรักษาหลายวิธีร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สารบัญ
หลุมสิว (Atrophic Scars) คืออะไร
หลุมสิว หรือ Atrophic Scars คือรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังการเป็นสิวอักเสบหรือสิวรุนแรง ซึ่งรักษาไม่ถูกต้องจนทำให้ผิวสมานตัวไม่สมบูรณ์ ลักษณะของหลุมสิวคือผิวที่เป็นรอยบุ๋ม ไม่เรียบเสมอกัน ทำให้เกิดเป็นร่องรอยบนใบหน้า หลุมสิวอาจลึกลงไปถึงชั้นผิวแท้ การเป็นหลุมสิวมักส่งผลต่อจิตใจผู้ที่ประสบปัญหานี้ เนื่องจากรอยหลุมสิวทำให้ความมั่นใจในตัวเองลดลง จนบางคนกลัวการเข้าสังคม
หลุมสิวเกิดจากอะไร?
หลุมสิวมักเกิดจากการที่เป็นสิวอักเสบ หรือสิวอุดตันขนาดใหญ่ที่มีการทำลายเนื้อเยื่อจนทำให้เนื่อเยื่อบริเวณที่เกิดสิวเสียหายไป และเมื่อสิวหายแล้วแต่เนื้อเยื่อคอลลาเจนที่สร้างใหม่ขึ้นมาทดแทนถูกกระบวนการอักเสบทำลายไปกลับมีปริมาณไม่เท่าเดิม จึงทำให้เกิดเป็นแผลเป็นชนิดที่มีเนื้อเยื่อลดลง (atrophic scar) และเห็นเป็นหลุมพร่องลงไป ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
โดยกระบวนการเกิดหลุมสิวมักเริ่มจากการเป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตันขนาดใหญ่ก่อน และหลังจากที่สิวหายแล้วจะยังหลงเหลือรอยแดงอยู่ให้เห็นได้ชัดจากนั้นจึงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นรอยดำ ซึ่งทั้งรอยแดงและรอยดำจะยังไม่ใช่แผลเป็นและสามารถหายไปได้ในระยะเวลาประมาณ 1 ปี
แต่ถ้าเป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตันที่มีความรุนแรงหลังจากรอยแดงและรอยดำจางลงหรือหายไปแล้ว แต่กระบวนการสร้างเนื้อเยื่อทดแทนบริเวณนั้นไม่สมบูรณ์ก็จะเกิดเป็นหลุมสิว และจะไม่หายไปจนเกิดเป็นรอยบุ๋มหรือเป็นหลุมที่ผิวหน้า
ประเภทของหลุมสิว
หลุมสิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทตามลักษณะของแผลเป็นที่เกิดขึ้น โดยในคนคนหนึ่งก็อาจมีหลุมสิวหลายประเภทบนใบหน้าก็ได้ ซึ่งหลุมสิวแต่ละประเภทก็จะมีการรักษาที่แตกต่างกัน และมีความยากง่ายในการรักษาไม่เท่ากัน
ประเภทหลุมสิวระดับรุนแรง (Ice Pick Scars)
หลุมสิวแบบ Ice Pick Scars เป็นประเภทที่มีความรุนแรงมากที่สุด ลักษณะของรอยหลุมสิวจะเป็นรูเล็กแต่ลึก ขอบหลุมไม่เรียบ เนื่องจากแผลมีขนาดเล็กและผิวถูกทำลายลึกลงไปมาก การรักษาหลุมสิวประเภทนี้จึงค่อนข้างยาก ต้องใช้วิธีรักษาหลุมสิวที่เน้นการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เช่นการทำ TCA CROSS เพื่อช่วยให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อทดแทนในบริเวณที่เป็นรอยหลุมสิว
ประเภทหลุมสิวระดับกลาง (Boxcar Scars)
ประเภทหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling Scars)
หลุมสิวทั่วไปหรือ Rolling Scar มีลักษณะเป็นแผลที่ค่อนข้างกว้าง ผิวบริเวณรอบ ๆ รอยหลุมสิวจะลาดต่ำลงเหมือนเนินคลื่น ส่วนก้นแผลจะแคบและอาจลึกกว่าปากแผล หากเป็นเพียงเล็กน้อย สามารถรักษาได้ด้วยวิธีพื้นฐาน เช่น การขัดผิวหรือทาครีมเฉพาะที่ แต่ถ้าเป็นมากหรือมีหลายจุด เลเซอร์ถือเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่เห็นผลได้ดี เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวและช่วยเติมเต็มผิวที่เป็นร่องลึก
ชนิดของสิวที่ทำให้เกิดหลุมสิวมากที่สุด
สิวอักเสบขนาดใหญ่ที่กินบริเวณเนื้อผิวทั้งทางกว้างและทางลึกลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการอักเสบของสิวกินบริเวณลึกลงไปถึงชั้นผิวแท้ เช่น สิวหัวช้าง (cystic acne)
เราสามารถรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองได้หรือไม่?
การใช้ยาทารักษาสิวบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ อาจช่วยในแง่กระตุ้นการผลัดผิว (turnover) ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้บ้าง แต่คงจะไม่สามารถคาดหวังผลการรักษาให้หายกริบเรียบเนียนได้ และจะเห็นผลได้แค่ในหลุมสิวที่ตื้น เช่น หลุมสิวชนิด rolling scar
นอกจากนั้น อีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยได้ คือ การใช้ครีมกันแดด ซึ่งจะช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอทั้งในส่วนของหลุมสิวและผิวหน้าในบริเวณข้างเคียง จึงทำให้หลุมสิวดูกลมกลืน ลดความเด่นชัดลงไปได้บ้างแต่วิธีนี้จะไม่ใช่การทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นแต่จะเป็นการปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ
ปัจจุบัน การรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพและดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง เพราะการรักษาหลุมสิวนั้น จำเป็นต้องได้รับการตรวจอย่างละเอียดในแต่ละราย เนื่องจากลักษณะหลุมสิวในแต่ละรายมีความแตกต่างกัน ทำให้การรักษาแตกต่างกัน และต้องใช้ระยะเวลารักษานาน เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด
หลุมสิวหายเองได้ไหม?
หลุมสิวจะไม่สามารถหายเองได้ เพราะหลุมสิวที่เห็นนั่นคือสภาพผิวที่เป็นแผลเป็นที่หายจากการบาดเจ็บแล้ว เป็นสภาวะที่ผิวซ่อมแซมตัวเองจากการเป็นสิวกลับสู่สภาวะปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ไม่ได้กลับเป็นผิวที่เรียบเนียนเหมือนเดิม หากจะทำการเปรียบเทียบก็เหมือนกับการเป็นแผลเป็นอื่น ๆ เช่น แผลเป็นจากการผ่าตัดหรือจากน้ำร้อนลวก เป็นต้น
การป้องกันการเกิดหลุมสิว
การรักษาหลุมสิว
การรักษาหลุมสิว ice pick
ด้วยความที่เป็นหลุมสิวที่เห็นเป็นรูลึกชัดเจน และรักษาได้ยากที่สุด การปรึกษาแพทย์ผิวหนังจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยการรักษาที่จะได้ผลดีและเหมาะสมกับหลุมสิวชนิดนี้จะเป็นการรักษาเฉพาะจุด เช่น TCA CROSS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ภายใต้ก้นของหลุมสิว
การรักษาหลุมสิว rolling
การรักษาหลุมสิว boxcar
เนื่องจากหลุมสิวชนิดนี้มีทั้งความลึก กว้าง และมีขนาดแตกต่างกัน การรักษาจึงเป็นการใช้ Fractional Laser ควบคู่ไปกับการรักษาด้วย TCA CROSS จะเห็นผลได้ดีที่สุด
หลุมสิวกับเลเซอร์
เทคโนโลยีการรักษาหลุมสิวของ The One Clinic
The One Clinic มีเทคโนโลยีการรักษาหลุมสิวที่เหมาะสำหรับหลุมสิวทุกประเภท เพราะแต่ละคนมีลักษณะหลุมสิวที่แตกต่างกัน จึงมีการรักษาที่แตกต่างกันในรายละเอียด เราจึงวางแผนการรักษาให้เหมาะสมที่สุดกับคนไข้แต่ละราย เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด
- TCA CROSS ช่วยรักษาหลุมสิวแบบเฉพาะจุด เช่น ice pick, boxcar
- Fractional RF กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยปรับผิวหน้าให้เรียบเสมอกัน (ablasiveskin resurfacing)
- Chemical peel ผลัดผิวให้ดูเรียบเนียน ลดความแตกต่างระหว่างหลุมสิวและผิวหน้าโดยรอบ
ไม่แน่ใจว่าหลุมสิวของคุณควรรักษาอย่างไร? คลินิกรักษาสิว The One Clinic ห้วยขวาง ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษา สิว รอยสิว หลุมสิว ติดต่อ
Line@: @theoneclinic
โทร: 093-583-0921